|
เมื่อวันที่ 20
มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า พบฟอสซิลเต่า 2 ตัว อายุกว่า 47 ล้านปี
ฝังอยู่ในหินในท่ากำลังผสมพันธุ์กัน
นักวิทยาศาสตร์คาดเต่าสองตัวนี้อาจกำลังผสมพันธุ์กันขณะภูเขาไฟใต้ทะเลกำลังปล่อยแก๊สพิษออกมาพอดี
ทำให้มันตายในท่าดังกล่าว
รายงานระบุว่า
ซากฟอสซิลเต่าผสมพันธุ์กันนี้ ถูกพบในเขตเมสเซล พิต
พื้นที่มรดกโลกซึ่งเป็นแหล่งศึกษาบรรพชีวินวิทยาชั้นเยี่ยมในเมืองดาร์มสทัดท์ของเยอรมนี
โดยจากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญพบว่า เต่าสองตัวนี้เป็นเต่าเพศผู้และเพศเมีย
มีชีวิตอยู่ราว ๆ 47 ล้านปีก่อน ในบริเวณที่ในอดีตเคยเป็นทะเลสาบภูเขาไฟมาก่อน
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้สันนิษฐานสาเหตุการตายของพวกมันว่า
เต่าสองตัวนี้อาจกำลังผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติบนผิวน้ำ
ระหว่างนั้นเองภูเขาไฟใต้น้ำก็ได้ปะทุขึ้น ปลดปล่อยแก๊สพิษออกมามากมาย
ทำให้เต่าสองตัวนี้ตายเพราะแก๊สพิษ
ก่อนจะจมดิ่งลงสู่ใต้ทะเลสาบในท่าที่ยังผสมพันธุ์กันอยู่
และถูกฝังอยู่ที่ก้นบึ้งของทะเลสาบภูเขาไฟนับตั้งแต่นั้นมา
สำหรับสายพันธุ์ของเต่าคู่นี้
เอกสารทางชีววิทยาได้อธิบายว่า มันเป็นเต่าสายพันธุ์ Allaeochelys crassesculpta
ซึ่งสูญพันธุ์ไปนานมากแล้ว พวกมันมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 20 เซนติเมตร
โดยเต่าเพศเมียจะมีขนาดลำตัวใหญ่กว่าเต่าเพศผู้เล็กน้อย
ขณะที่สายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับเต่าสายพันธุ์นี้มากที่สุดคือ Carettochelys
insculpta ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า
พบได้มากในประเทศออสเตรเลียและปาปัวนิวกินี
ทั้งนี้
ซากฟอสซิลเต่าผสมพันธุ์กันดังกล่าว
นับว่าเป็นฟอสซิลที่สร้างความฮือฮาในวงการชีววิทยาไม่น้อย
เพราะถือว่าเป็นฟอสซิลสัตว์มีกระดูกสันหลังประเภทเดียวที่พบในสภาพที่กำลังผสมพันธุ์กัน
ซึ่งพบได้ยากมาก |
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น