"ปลื้มจิตร์"ออกมาแจงไม่มีอะไรกับ"น้องซานิ" เอเอฟ |
จากกรณีกระแสข่าวฮอตล่าสุดทั้งในวงการกีฬาและบันเทิงในขณะนี้ โดยมีข่าวหลายสำนักระบุ “ปลื้มจิตร์ ถินขาว” นักวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย สาวหล่อขวัญใจคนทั่วประเทศ โพสต์ภาพอินสตาแกรมเปิดตัวว่าเป็น "แฟน" กับ นิภาภรณ์ ฐิติธนการ หรือ ′ซานิ เอเอฟ 6′ นักร้องเสียงคุณภาพจากการแข่งขันรายการอะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ซีซั่น 6 (เอเอฟ 6)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ก.ค. “ปลื้มจิตร์ ถินขาว” ให้สัมภาษณ์ "ข่าวสด" ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ตนรู้จักกับน้องซานิ เอเอฟ มานานแล้ว โดยรู้จักผ่านรุ่นน้องคนหนึ่งอีกที และรู้จักกันมานานตั้งแต่ก่อนน้องซานิจะเข้าบ้านเอเอฟด้วยซ้ำ ก็เป็นเวลา 4-5 ปีแล้ว สนิทสนมกันในระดับหนึ่ง แต่ไม่มาก เพราะเป็นพี่น้องกันเท่านั้น “หนูไม่ใช่ดารา โพสต์ไปขำๆ ไม่ได้มีอะไร แต่ที่เป็นประเด็นขึ้นมาเพราะแฟนคลับหลายคนเชียร์ให้คบหากัน ยืนยันว่าไม่มีอะไรเป็นพี่น้องกันจริงๆ” ปลื้มจิตร กล่าว |
วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ทุกคน ปลื่มจิตร เป็นแฟนกับ ซานิ AF 6 อ่ะ กร๊ดดด
วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ฮือฮา! พบฟอสซิลเต่ามีเซ็กส์ 47 ล้านปี ในเยอรมนี
นาตาลี สวีท แฟนฝรั่ง เย้ย หนุ่มไทย...
ตั้งแต่หย่าขาดกับอดีตสามี บอล ภราดร เกือบ 2 ปี!
นางฟ้าคนสวย นาตาลี
เกลโบวา เนื้อหอมทันตาเห็นหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อาสาดามใจให้เพียบ!
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเข็ดรักจากหนุ่มไทยหรือเปล่า? สาวนาตาลี ถึงหันไปคว้านักธุรกิจชาวลัตเวีย ยานิส มาเป็นแฟน(ใหม่)
มันซะเลย!
จะว่าไป หนุ่มยานิส ก็หล่อแอนด์แฮนซั่มไม่แพ้อดีตสามี ซูเปอร์บอล
ภราดร เลยนะเนี่ย!!
นาตาลี
เกลโบวา : รักครั้งใหม่หวานชื่นกว่าเดิม
นาตาลี
เกลโบวา : รู้อย่างนี้คบฝรั่งตั้งนานแล้ว
นาตาลี
เกลโบวา : ครั้งนี้รักจริง แต่ยังไม่หวังแต่ง
นาตาลี
เกลโบวา : เพราะกลัวเป็นเหมือนอดีตที่ผ่านมา
ฮือฮา ชุดชั้นในโบราณอายุมากกว่า 500 ปี
(17 ก.ค.) สำนักข่าวเดลี่เมล์ของอังกฤษได้รายงานว่า มีการค้นพบซากชุดชั้นในอยู่ภายในปราสาทโบราณ ประเทศออสเตรีย ซึ่งมีอายุประมาณ 500 ปี
มันอาจจะดูไม่เซ็กซี่และร้อนแรงเท่าชุดชั้นในยุคปัจจุบันนี้ แต่การค้นพบชุดชั้นในตัวนี้เป็นเรื่องที่ตื่นตาของนักประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก ผ้าลูกไม้และผ้าลินินนี้มีอายุรวมเป็นหลายร้อยปีก่อนที่มีการคาดคะเนว่าจะถูกสร้างให้เกิดขึ้นซะอีก ถึงแม้สภาพของชุดชั้นในชิ้นนี้จะมีการย่อยสลายไปตามกาลเวลา แต่ถ้าดูจากรูปทรงแล้วก็ไม่ต่างไปกับชุดชั้นในทรงบิกินี่สตริงหรือยกทรงที่มีคัฟแบบในปัจจุบันเลย
ตามที่นักโบราณคดีได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่า ผู้ชายยุคกลางสวมชั้นในเป็นกางเกงขาสั้น ซึ่งเหมือนกับในยุคปัจจุบัน ส่วนผู้หญิงสวมชุดคลุมหลือชุดชั้นในและมีความคิดกันว่ากางเกงชั้นในได้ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และยกทรงถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อ 100 ปีก่อน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านแฟชั่นได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการค้นพบครั้งนี้ว่า จะเป็นการเปลี่ยนโฉมประวัติศาสตร์แฟชั่นเลยทีเดียว
สนุกแบบเลอะๆ กับมหกรรมสาดโคลนที่เกาหลี
เหล่านักท่องเที่ยวต่างเล่นและสาดน้ำโคลนใส่กันอย่างสนุกสนานขณะเข้าร่วมเทศกาลโคลนครั้งที่
15 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเมือง Boryeong
ที่อยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 190 กิโลเมตร
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-24 กรกฎาคมนี้
เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและส่งเสริมการใช้โคลนเพื่อประทินผิวและความงาม
สลด ทอมน้อยใจแม่สั่งให้เลิกคบดี้ ผูกคอตายในโรงรถ
สลด
ทอมน้อยใจแม่สั่งให้เลิกคบดี้ ผูกคอตายในโรงรถ
เมื่อวานนี้
(18 ก.ค.) ที่ สภ.ย่อยสำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายในโรงรถ เมื่อรุดไปที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.ฟ้า
(นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่โรงจอดรถ
ท่ามกลางความเสียใจของมารดาผู้ตาย
ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต
จากการตรวจสอบทราบว่า
น.ส.ฟ้า มีนิสัยชอบทำตัวเป็นผู้ชายตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย และรู้จักกับ
น.ส.พลอย เมื่อ 2 ปีก่อน ต่อมา น.ส.ฟ้า ได้ออกไปเช่าหอพักอยู่กับแฟนสาว
จนเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผู้เป็นแม่ของผู้ตายได้ออกตามหาและพบว่าอยู่กับ น.ส.พลอย
มารดาจึงขอให้ น.ส.ฟ้า
กลับบ้านและขอร้องให้ลูกสาวเลิกประพฤติตัวเป็นชายและให้แยกทางกับแฟนที่เป็นหญิง
เพื่อกลับมาอยู่ดูแลแม่ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
แต่ทั้งคู่เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง
จนกระทั่งเช้าของเมื่อวาน
(18 ก.ค.) เวลาประมาณ 07.00 น. แม่ของ น.ส.ฟ้า ได้ออกจากทำธุระนอกบ้าน
เวลานั้นเอง น.ส.ฟ้าได้เขียนจดหมายพร้อมกับส่งข้อความลาตาย ไปที่โทรศัพท์
สุดโหด! คนร้ายลอบตัดอวัยวะเพศ ด.ช. 2ขวบที่จีน
สลด! ด.ช. 2ขวบที่จีน ถูกคนร้ายลอบตัดอวัยวะเพศ โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะกำลังวิ่งเล่น เบื้องต้นแพทยืได้ผ่าตัดช่วยชีวิตปลอดภัยแล้ว ด้านตำรวจเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี หวั่นก่อเหตุซ้ำ
สำนักข่าวซินหัวของจีน ได้รายงานว่า ที่เมืองเทียนสุ่ย ในมณฑลกานซู่ ได้เกิดเหตุสดสลดขึ้น เมื่อด.ช.วัย 2ขวบคนหนึ่งถูกโจรใจบาปจับไปเฉือนอวัยวะเพศ ขณะกำลังวิ่งเล่นตามประสาเด็กอยู่ระแวกบ้าน
โดยพ่อของเด็กน้อยผู้เคาระห์ร้ายคนดังกล่าวเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมื่อวันที่ 6ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนเกิดเหตุเด็กน้อยคนดังกล่าวก็เล่นตามปกติ แต่เมื่อนานเข้าตนก็รู้สึกผิดสังเกต เมื่อลูกชายหายตัวไปนานปกติ จึงได้ออกตามหาแต่ก็หาตัวไม่พบ
ทั้งนี้หลังติดตามหาตัวอยู่พักใหญ่ ก็ได้มีเพื่อนบ้านวิ่งมาบอกว่าพบเด็กนั่งร้องไห้อยู่ จึงวิ่งไปดู และพบว่าเป็นลูกของตนที่นั่งอยู่กับพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด เมื่อตนเข้าไปดูก็พบว่าลูกชายถูกตัดอวัยวะเพศไปแล้ว จึงรับนำตัวส่งโรงพยาบาล
“ตนไม่เข้าใจว่าคนร้ายทำไมถึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ และเขาทำไปเพื่ออะไร เพราะตนกับครอบครัวก็ใช้ชีวิตตามปกติไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน” พ่อของเด้กเคาระห์ร้ายกล่าว.
เบื้องต้นรายงานระบุว่า เด็กคนดังกล่าวปลอดภัยแล้ว หลังคณะแพทย์ได้ผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตหนูน้อยได้ทัน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งกำลังลงพื้นที่ เพื่อเร่งล่าตัวคนร้ายสุดโหดรายนี้มาดำเนินคดี ก่อนที่จะไปก่อเหตุสลดซ้ำอีก.
โจ๋ไต้หวัน เล่นเกมส์ไม่หยุด 40 ชั่วโมง จนตาย
โจ๋ไต้หวัน เล่นเกมส์ไม่หยุดนานกว่า 40 ชั่วโมง จนตาย
Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วัยรุ่นชายวัย 18 ปี ชาวไต้หวัน กระหน่ำเล่นวีดิโอเกมส์มาราธอน แบบไม่หยุดพักนานกว่า 40 ชั่วโมงในร้านเกมส์ เมืองไทหนาน ทางตอนใต้ของไต้หวัน จนกระทั่งเสียชีวิต
รายงานระบุว่า เขาเล่นเกมส์ Diablo III ไม่ลุกไปไหนมากว่า 2 วัน และเชื่อว่า ตลอด 40 ชั่วโมง ไม่มีการหยุดพักรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ กระทั่งเจ้าของร้านพบร่างที่ฟุบลงไปที่เก้าอี้ เมื่อปลุกขึ้นมาเขายืน และเดินไปเพียงสองสามก้าวก็ฟุบลงพื้น ร่างของเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เพียงไม่นาน เขาก็เสียชีวิตเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
การเสียชีวิตของวัยรุ่นรายนี้ เชื่อว่า การนั่งเป็นเวลานานหลายๆชั่วโมง จะทำให้เกิดความผิดปกติทางด้านหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งเมื่อไม่มีสารอาหารเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ก็เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตในที่สุด ซึ่งในปีนี้นับว่าเป็นรายที่สองของประเทศ ที่เสียชีวิตจากการนั่งเล่นเกมส์เป็นเวลานานๆ
แม่น้องเบิร์ด เปิดใจ รักแม่เหมือนเดิม เผยที่ผ่านมายายไม่เคยตีหลาน
แม่น้องเบิร์ด เปิดใจ รักแม่เหมือนเดิม เผยที่ผ่านมายายไม่เคยตีหลาน
การเสียชีวิตของเด็กชายอรรถสิทธิ์ ลีเลิศยุทธ์ หรือ น้องเบิร์ด อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 สร้างความโศกเศร้าให้แก่ผู้เป็นแม่ เมื่อรู้ว่า นางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ผู้เป็นยายของเด็ก ที่เป็นผู้ลงมือฆ่า และกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่เป็นที่สนใจของสังคม
โดยนางสาววราภรณ์ คำแสน ลูกสาวของนางสมจิตร และเป็นแม่ของน้องเบิร์ด ได้กล่าวเปิดใจเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า แม่ของตนนั้นรักตนมาก แต่ขณะเดียวกันก็รักน้องเบิร์ดเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาแม่ไม่เคยตีหลาน และก็รู้ว่าหลานชายมีนิสัยเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่เคยไปพูดให้ใครฟัง และตนก็ไม่คิดว่าเรื่องจะมารุนแรงถึงขั้นนี้
อย่างไรก็ตาม ตนก็ยังรักแม่เหมือนเดิม และเข้าใจแม่ทุกอย่าง ตอนแรกที่รู้ข่าวว่าแม่เป็นคนฆ่าน้องเบิร์ดก็รู้สึกช็อกเหมือนกัน ยอมรับว่าครอบครัวสูญสลายไปหมดแล้ว แต่ก็จะหมั่นทำบุญให้ลูกของตน และทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด รอวันที่แม่พ้นโทษออกมาแล้วเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกันใหม่ ดูแลแม่ต่อไป พร้อมกับอยากให้น้องเบิร์ด อโหสิกรรมให้กับสิ่งที่ยายได้ทำไป
พบเงินแท่ง หนักกว่า 48 ตัน ในซากเรือยุคสงครามโลก ครั้งที่ 2
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทสำรวจทางทะเลอเมริกา ออดดีซีย์ มารีน เอ็กโพลเรชั่น ได้สำรวจพบเงินแท่งหนักกว่า 48 ตัน อยู่ในซากเรือสินค้า เอสเอส เกียร์ซอปป้า ของ บริษัทขนส่งสินค้าของอังกฤษ ที่ได้ล่องออกจากท่ากัลเวย์ ของไอร์แลนด์ ก่อนที่จะถูกกองทัพเยอรมนี ยิงตอร์ปิโด จนจมลงสู่ท้องมหาสมุทรแอตแลนติก ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1941 ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่ 2
สำหรับเงินแท่งที่ถูกพบนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 1,203 แท่ง โดยคิดตามน้ำหนักหน่วยเงิน รวม 1.4 ล้านทรอยออนซ์ส ประมาณ 48 ตัน ซึ่งได้มีการประกันความเสียหายไว้ 325,000 ปอนด์ ตามมูลค่าในปี 1941 และบริษัทออดดีซีย์ จะได้รับเงินค่าดำเนินงานในการสำรวจครั้งนี้ 20 เปอร์เซ็นต์ จากมูลค่าสินค้า
น่าห่วง! ธารน้ำข็งแตก ใหญ่กว่าเกาะแมนฮัตตัน 2 เท่า
MThai News: ภาพถ่ายจากดาวเทียมอะควา ขององค์การนาซา ชี้ให้เห็นแผ่นน้ำแข็งที่แตกออกจนกลายเป็นเกาะขนาดใหญ่ บริเวณส่วนปลายสุดของธารน้ำปีเตอร์แมนน์ ทางตอนเหนือของเกาะกรีนแลนด์ มีขนาดกว่า 120 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเกาะแมนฮัตตันของสหรัฐฯ ถึง 2 เท่า
ทั้งนี้ข้อมูลของสมาคมแคนาเดียน ไอซ์ เซอร์วิส เผยว่า แผ่นน้ำแข็งนี้ มักจะลอยออกไปไกลถึงชายฝั่งรัฐนิวฟันด์แลนด์ ของแคนาดา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินเรือและการทำประมง
ตามธรรมชาติ ธารน้ำแข็งจะแตกตัวออกเป็นแผ่นน้ำแข็งอยู่แล้ว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น้ำแข็งที่แตกตัวมีขนาดใหญ่มาก จนกลายเป็นที่กังวลของนักวิชาการ ที่กล่าวว่าการแตกของธารน้ำแข็งในครั้งนี้เป็นเรื่องน่าตกตะลึงมาก
ขณะที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แผ่นน้ำแข็งจากเกาะกรีนแลนด์ เริ่มมีความบางลงเรื่อยๆ ขณะที่อากาศก็เริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2010 ได้เกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกันนี้ เมื่อธารน้ำแข็งปีเตอร์แมนน์ แตกออกเป็นเกาะขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 250 ตารางกิโลเมตร
วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ทบ.สั่งฟื้นสุภาพบุรุษอาชีวะ จับเด็กเข้าค่าย 17 ก.ค.นี้
ทบ.สั่งฟื้นโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะ เกณฑ์นักเรียนอาชีวะเข้าค่ายติวเข้ม 10 สัปดาห์ ยันฝึกไม่หนักเท่าทหารเกณฑ์แน่นอน พร้อมฝึกวันแรก 17 กรกฎาคมนี้
วันนี้ (3 กรกฎาคม) พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการ "สุภาพบุรุษอาชีวะ" ตามข้อสรุปการประชุมร่วมระหว่างกองทัพบก คณะกรรมส่งเสริมการศึกษาอาชีวะภาคเอกชน และคณะกรรมอาชีวะศึกษา ว่า ตอนนี้ทางกองทัพบกได้กำหนดให้วันที่ 17 กรกฎาคม เป็นวันปฐมนิเทศนักเรียนอาชีวะ จำนวน 150 คน ที่จะเข้ารับการฝึกตามโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะ ณ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี เป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ (ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมนี้ จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกันยายน) ซึ่งในวันปฐมนิเทศทางกองทัพได้ให้ผู้ปกครองเข้าร่วมฟังการปฐมนิเทศด้วย เพื่อที่จะได้รับทราบถึงขั้นตอน และวิธีการฝึกอบรมอย่างละเอียด
ทั้งนี้ ในระหว่างการฝึกตามโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะนั้น ทางกองทัพบกจะไม่อนุญาตให้นักเรียนกลับบ้าน แต่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าเยี่ยมได้หลังการฝึกผ่านไปแล้ว 4 สัปดาห์ ซึ่งการฝึกอบรมนั้น ทางกองทัพบก ได้มีการแบ่งการฝึก ไว้ดังนี้
- ช่วงสัปดาห์ที่ 1 - 4 : เป็นการฝึก เพื่อละลายพฤติกรรมของนักเรียน
- ช่วงสัปดาห์ที่ 5 - 10 : เป็นการฝึกทางวิชาการ ซึ่งรวมถึงการไปศึกษาดูงานโรงงานอุตสาหกรรมและทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพบกก็ไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากการฝึกตามโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะแล้ว นักเรียนอาชีวะทั้ง 150 คน จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตลอดจนทัศนคติเดิมได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็อาจมีบางส่วนที่ปรับตัวใหม่ และพร้อมนำความรู้ความสามารถที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น
ไอซีที เตรียมสั่งแท็บเล็ตล็อต 2 ขณะล็อตแรกยังไม่ตรวจมาตรฐาน
ไอซีที เตรียมสั่งแท็บเล็ตล็อต 2 ขณะล็อตแรกยังไม่ตรวจมาตรฐาน
ไอซีที เตรียมสั่งแท็บเล็ตล็อตที่ 2 อีก 4 แสนเครื่องในวันนี้ ขณะที่ล็อตแรกยังไม่มีการสุ่มตรวจรับรองมาตรฐาน
วานนี้ (8 กรกฎาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกระทรวงไอซีที เตรียมลงนามจัดซื้อแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพิ่มอีกเป็นล็อตที่ 2 จำนวน 4 แสนเครื่อง ในวันนี้ (9 กรกฎาคม) แต่ทั้งนี้ มีรายงานว่า แท็บเล็ตในล็อตแรกที่สั่งซื้อตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยังไม่ได้เริ่มกระบวนการตรวจรับรองมาตรฐานเลย ถึงแม้จะมีการทยอยส่งมอบไปยังโรงเรียนต่าง ๆ แล้วก็ตาม
สำหรับแท็บเล็ตล็อตแรกที่กระทรวงไอซีทีสั่งซื้อจำนวน 4 แสนเครื่องนั้น ขณะนี้ทางบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ประเทศจีน ได้ทยอยส่งมาแล้วประมาณ 46,000 เครื่อง ทางคณะกรรมการตรวจรับของของกระทรวงไอซีทียังไม่ได้เริ่มตรวจรับรองมาตรฐานแม้แต่เครื่องเดียว
ขณะที่ นายสมบูรณ์ เมฆไพบูลย์วัฒนา ประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุการจัดซื้อแท็บเล็ต ชี้แจงว่า เครื่องล็อตแรก 400,000 เครื่องนั้น ทางไอซีทีจะสุ่มตรวจไม่น้อยกว่า 35,000 เครื่อง แต่ทั้งนี้ ที่ยังไม่เริ่มกระบวนการตรวจเป็นเพราะว่า ต้องการรอแท็บเล็ตที่จะส่งมาในวันนี้อีกประมาณ 1 หมื่นเครื่อง เพื่อทำการสุ่มตรวจพร้อม ๆ กัน โดยจะต้องมีเครื่องที่ได้มาตรฐานไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.65 หรือ จำนวน 228 เครื่อง จึงจะผ่านมาตรฐานการตรวจสอบทั้งหมด แต่หากไม่เป็นไปตามนั้น เครื่องที่อยู่ในไทยแล้ว จะถูกส่งคืนให้บริษัทแก้ไขทันที
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ทางพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2554 และเริ่มต้นโครงการอย่างจริงจังในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ขณะที่ทางคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้มีคณะกรรมการแท็บเล็ตจำนวน 14 คน โดยจะจัดหาแท็บเล็ตทั้งหมดจำนวน 9 แสนเครื่อง ในวงเงินที่เป็นงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 1.9 พันล้านบาท และตั้งเป้าว่าจะส่งมอบให้นักเรียนในจำนวน 8 แสนคน ในช่วงเปิดเทอมเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
รายงานยังระบุอีกว่า จากนั้นทางคณะกรรมการแท็บเล็ตได้ตั้งคณะทำงานอีก 2 ชุด เพื่อพิจารณาคุณสมบัติเครื่องแท็บเล็ตให้เป็นไปตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ ส่วนอีกชุดหนึ่งได้พิจารณาการจัดซื้อจัดหาโดยมีกระทรวงไอซีทีเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่จะดำเนินการอย่างแน่ชัด เนื่องจากปัญหาความไม่ลงรอยกันระหว่างรัฐมนตรีไอซีที และกระทรวงศึกษาธิการ
ต่อมา จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคม ทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการนี้อีกครั้ง โดยปรับซื้อจากจำนวน 9 แสนเครื่อง ให้เป็น 1 ล้านเครื่อง และจากงบ 1.9 พันล้านบาท เป็นไม่เกินจำนวน 3 พันล้านบาท และให้กระทรวงไอซีทีปรับเปลี่ยนการแลกสินค้า มาเป็นการทำสัญญาโดยตรงกับ บริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ที่รัฐบาลจีนรับรอง
อย่างไรก็ตาม กำหนดการและรายละเอียดต่าง ๆ ทางไอซีที ได้เปิดเผยเพียงแค่เรื่องกำหนดคุณสมบัติเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่มีการเปิดเผยใด ๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นที่จับตามองว่า"แท็บเล็ต" นั้น จะมีปัญหาตามมาอีกหรือไม่ และเมื่อไรนักเรียนชั้น ป.1 จะได้เริ่มใช้เสียที
วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ผวา! น่ากลัวเกิน ปลุกศพให้เดินกลับบ้านเอง.
พิธีแปลกที่หลายคนฟังแล้วอาจจะขนลุก เนื่องจากเป็นพิธีที่ปลุกศพให้ลุกขึ้นเดินกลับบ้าน เพื่อฝังศพในบ้านของตัวเอง และให้กลับมาพบญาติพี่น้องอีกครั้ง
พิธีกรรมศพที่ว่านี้เป็นของหมู่บ้านทานาโทราจาและหมู่บ้านมามาซาววซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบทของประเทศอินโดนีเซีย โดยจะมีการทำพิธีปลุกซากศพให้ลุกขึ้นมาเดินกลับบ้าน เพราะมีความเชื่อว่าศพจะต้องเดินกลับมาเพื่อฝังในบ้านเกิดของตัวเองและเป็นการกลับมาพบกับญาติพี่น้องอีกครั้ง โดยศพต้องอยู่ในสภาพที่เหมือนกับมีลมหายใจทุกอย่าง ในกรณีที่มีคนเสียชีวิตในที่ที่ห่างไกลบ้านจะฝังศพเอาไว้ก่อนจนเวลาผ่านไปหลายปีจึงทำการขุดศพขึ้นมาพร้อมแต่งตัวให้กับศพเหมือนตอนที่ยังมีชีวิต จากนั้นก็จะมีการทำพิธีปลุกศพให้ลุกขึ้นเดินกลับบ้านโดยไม่มีการคลุมใบหน้าศพ แต่มีข้อห้ามว่า ห้ามแห่ศพกลับเข้าบ้านและห้ามอุ้มศพขึ้นมาเป็นอันขาด หากใครไม่ปฏิบัติตามกฏข้อนี้ก็จะป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
ในระหว่างที่ศพเดินกลับบ้าน ญาติๆที่อยู่ในพิธีจะห้ามให้คนที่เดินผ่านพูดคุยกับศพ และจะเลือกเส้นทางที่เงียบที่สุด ทั้งนี้คนที่ทำพิธีนี้บอกว่า จริงๆแล้วญาติจะเป็นคนพยุง ศพไม่ได้เดินได้เองแต่อย่างใด
พิธีกรรมศพที่ว่านี้เป็นของหมู่บ้านทานาโทราจาและหมู่บ้านมามาซาววซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบทของประเทศอินโดนีเซีย โดยจะมีการทำพิธีปลุกซากศพให้ลุกขึ้นมาเดินกลับบ้าน เพราะมีความเชื่อว่าศพจะต้องเดินกลับมาเพื่อฝังในบ้านเกิดของตัวเองและเป็นการกลับมาพบกับญาติพี่น้องอีกครั้ง โดยศพต้องอยู่ในสภาพที่เหมือนกับมีลมหายใจทุกอย่าง ในกรณีที่มีคนเสียชีวิตในที่ที่ห่างไกลบ้านจะฝังศพเอาไว้ก่อนจนเวลาผ่านไปหลายปีจึงทำการขุดศพขึ้นมาพร้อมแต่งตัวให้กับศพเหมือนตอนที่ยังมีชีวิต จากนั้นก็จะมีการทำพิธีปลุกศพให้ลุกขึ้นเดินกลับบ้านโดยไม่มีการคลุมใบหน้าศพ แต่มีข้อห้ามว่า ห้ามแห่ศพกลับเข้าบ้านและห้ามอุ้มศพขึ้นมาเป็นอันขาด หากใครไม่ปฏิบัติตามกฏข้อนี้ก็จะป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
ในระหว่างที่ศพเดินกลับบ้าน ญาติๆที่อยู่ในพิธีจะห้ามให้คนที่เดินผ่านพูดคุยกับศพ และจะเลือกเส้นทางที่เงียบที่สุด ทั้งนี้คนที่ทำพิธีนี้บอกว่า จริงๆแล้วญาติจะเป็นคนพยุง ศพไม่ได้เดินได้เองแต่อย่างใด
สุดซึ้ง หนุ่มจีน ง้อเมีย โดยการเดินเข่าคำนับไปตามท้องถนน
สุดซึ้ง หนุ่มจีน ง้อเมีย โดยการเดินเข่าคำนับไปตามท้องถนน
มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่กำลังเดินด้วยเข่าไปตามถนน พร้อมกับก้มศีรษะคำนับกับพื้นถนน ไปตลอดทาง จนถึงกับมีเลือดออกตามหน้าผาก ทั้งนี้สิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้ทำอยู่นั้น เพื่อจะหวังให้ภรรยาของเขายกโทษให้
ชายหนุ่มง้อเมียด้วยการเดินเข่า
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ (30 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.40 น. ที่เมืองผูเถียน ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีน ได้มีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง พยายามเดินเข่าพร้อมกับเอาศีรษะก้มลงแตะพื้นทุกครั้งที่ก้าวเข่าไป จนบริเวณหน้าผากของชายหนุ่มคนดังกล่าวมีเลือดอาบ ถึงแม้ว่าผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นจะพยายามเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากชายหนุ่มคนนี้
ชายหนุ่มง้อเมียด้วยการเดินเข่า
และเขาก็ได้บอกว่าที่ทำแบบนี้ เพราะต้องการให้ภรรยาของเขายกโทษให้ โดยจะคุกเข่าไปจนกว่าจะถึง Zhengrong Times Square ซึ่งก็เป็นระยะทางกว่า 1,000 เมตร กว่าจะไปถึงที่นั่น แต่เมื่อเขาเดินเข่าไปประมาณ 200 เมตร ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งขี่จักรยานเข้ามาหาเขา และได้เรียกแท็กซี่พาชายหนุ่มคนนี้ออกไป
ชายหนุ่มง้อเมียด้วยการเดินเข่า
ครูโรงเรียนดังผูกคอตาย ห้อยตัวจากอาคารเรียน
ครูโรงเรียนดังผูกคอตาย ห้อยตัวจากอาคารเรียน
ครูโรงเรียนดังผูกคอตาย ห้อยตัวจากอาคารเรียน
(9 ก.ค.) เมื่อเวลา 06.18 น. ศูนย์วิทยุพระนคร มูลนิธิร่วมกตัญญู รับการประสานงานจาก สน.ประชาชื่น ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่รับผู้เสียชีวิตหลัง สน.ประชาชื่น จึงเข้าไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุภายในโรงเรียนมัธยมศึกษาประชานิเวศน์ บริเวณอาคารเรียนชั้น 2 พบศพผู้เสียชีวิตในสภาพผูกคอตายติดกับเสาอาคาร ห้อยร่างอยู่ริมระเบียง ตรวจสอบผู้เสียชีวิตเป็นชายสวมเสื้อลายแดงคาดดำ กางเกงขายาวสีดำ ทราบชื่อต่อมาคือ นายประจวบ ใจด้วง 49 ปี เป็นครูสอนวิชาสังคมศาสตร์ของโรงเรียนดังกล่าว
จากการสอบถามเพื่อนครูโรงเรียนเดียวกันให้การว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เข้าเวรประจำดูแลโรงเรียนและได้โทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนสนิทซึ่งเป็นครูโรงเรียนเดียวกัน โดยผู้ตายได้กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่าเตรียมทำศพตนด้วย นอกจากนี้ผู้ตายยังได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับพระรูปหนึ่งและได้เอ่ยบอกลา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจมีโรคประจำประตัวคือโรคกระดูกทับเส้นประสาท อาจเป็นสาเหตุทำให้ผู้ตายเกิดอาการเครียดจึงคิดสั้นผูกคอตายดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับทางญาติผู้ตายให้มารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
พบแมลงวันสายพันธุ์ใหม่ เล็กที่สุดในโลก อาศัยอยู่ในไทย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ไบรอัน บราวน์ ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในลอสแองเจลิส เคาน์ตี สหรัฐอเมริกา ค้นพบแมลงวันชนิดใหม่ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยพบในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย
ทั้งนี้ ไบรอัน บราวน์ เปิดเผยว่า แมลงวันตัวดังกล่าวเป็นเพศเมีย ซึ่งมีขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แม้จะเอามันไปวางบนแผ่นสไลด์ของกล้องจุลทรรศน์ก็ตาม
สำหรับแมลงวันพันธุ์ใหม่นี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “ยูรีพลาเทีย นานักนีฮาลี (Euryplatea nanaknihali)” มีปีกสีเทาและมีความยาวเพียง 0.4 มิลลิเมตร เท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า ขนาดของแมลงวันชนิดนี้มีขนาดเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นของแมลงดูดเลือดจำพวกริ้นน้ำเค็ม
นอกจากนั้น จุดเด่นของแมลงวันชนิดนี้คือ ตัวแมลงวันนั้นจะวางไข่ในลำตัวมดขณะที่มดยังมีชีวิตอยู่ พอไข่ฟักตัว ตัวอ่อนก็จะคลานไปยังส่วนหัวของมดเพื่อดูดสารอาหารจากกล้ามเนื้อและสมองของมด จนทำให้มดสูญเสียการควบคุมร่างกายและหัวมดก็จะหลุดออกมา
หลังจากนั้น ตัวอ่อนจะอาศัยในหัวที่ขาดออกของมดตัวนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนจะเจริญเติบโตเต็มวัย ซึ่งมีพฤติกรรมวางไข่ตามตัวมดคล้ายกับ แมลงวันตัดหัวมด ที่พบในประเทศอิเควทอเรียลกินี ของทวีปแอฟริกา
ทั้งนี้ ไบรอัน บราวน์ เปิดเผยว่า แมลงวันตัวดังกล่าวเป็นเพศเมีย ซึ่งมีขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แม้จะเอามันไปวางบนแผ่นสไลด์ของกล้องจุลทรรศน์ก็ตาม
สำหรับแมลงวันพันธุ์ใหม่นี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “ยูรีพลาเทีย นานักนีฮาลี (Euryplatea nanaknihali)” มีปีกสีเทาและมีความยาวเพียง 0.4 มิลลิเมตร เท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังระบุว่า ขนาดของแมลงวันชนิดนี้มีขนาดเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นของแมลงดูดเลือดจำพวกริ้นน้ำเค็ม
นอกจากนั้น จุดเด่นของแมลงวันชนิดนี้คือ ตัวแมลงวันนั้นจะวางไข่ในลำตัวมดขณะที่มดยังมีชีวิตอยู่ พอไข่ฟักตัว ตัวอ่อนก็จะคลานไปยังส่วนหัวของมดเพื่อดูดสารอาหารจากกล้ามเนื้อและสมองของมด จนทำให้มดสูญเสียการควบคุมร่างกายและหัวมดก็จะหลุดออกมา
หลังจากนั้น ตัวอ่อนจะอาศัยในหัวที่ขาดออกของมดตัวนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนจะเจริญเติบโตเต็มวัย ซึ่งมีพฤติกรรมวางไข่ตามตัวมดคล้ายกับ แมลงวันตัดหัวมด ที่พบในประเทศอิเควทอเรียลกินี ของทวีปแอฟริกา
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ข่าวเจ๋ง! ใช้ 'น้ำกากชูรส' เพาะเลี้ยงแบคทีเรียกำจัดลูกน้ำยุงลาย
กรมวิทย์ฯข่าววันนี้เจ๋งนำน้ำกากชูรสเหลือทิ้ง มาใช้เป็นวัตถุดิบเพาะเลี้ยงแบคทีเรีย เพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลาย หวังสกัดโรคไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ มาลาเรียในช่วงฤดูฝน...
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในแต่ละปีมีประชาชนป่วยด้วยโรคที่มียุงเป็นพาหะนำโรคจำนวนมาก เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้สมองอักเสบ โรคมาลาเรีย และโรคเท้าช้าง ฯลฯ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกกำลังระบาดและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการวิจัยและพัฒนา นวัตกรรมที่สนับสนุนงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ จึงได้มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยใช้น้ำกากชูรสที่เป็นสิ่งเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมผลิตผงชูรส มาใช้เป็นวัตถุดิบในการเพาะเลี้ยงเซลล์ แบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส (Bacillus thuringiensis) หรือ บีที ซึ่งเป็นแบคทีเรียกำจัดลูกน้ำยุงลายได้
breakอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าน้ำกากชูรสสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์แบคทีเรียได้ และมีประสิทธิภาพกำจัดลูกน้ำยุงลายใกล้เคียงกับแบคทีเรียมาตรฐาน ในอนาคตอาจนำไปสู่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายต่อไป ทั้งนี้ แบคทีเรียที่ได้รับการยอมรับให้นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กำจัดลูกน้ำยุงลายนั้น มี 2 ชนิด คือ Bacillus thuringiensis subsp.israelensis เป็นแบคทีเรียที่มีศักยภาพในการฆ่าลูกน้ำยุงได้หลายชนิด โดยเฉพาะการใช้กำจัดลูกน้ำยุงลาย รวมทั้งริ้นดำ และบาซิลลัส สเฟียริคัส (Bacillus sphaericus) เป็นแบคทีเรียที่มีศักยภาพในการกำจัดลูกน้ำยุงก้นปล่องและยุงรำคาญได้ดี ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนา Bacillus thuringiensis subsp. israelensis เป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าหลายชนิดในต่างประเทศแต่มีราคาสูง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เห็นว่าน้ำกากชูรสเหลือทิ้งสามารถสร้างงานวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ จากสิ่งเหลือทิ้งได้หลายสาขา จึงได้มีการศึกษาและพัฒนาเป็นอาหารเพาะเลี้ยงแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis เพื่อนำไปสู่การทำผลิตภัณฑ์เพื่อใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายต่อไป ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า รวมทั้งช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
breakนพ.สมชาย แสงกิจพร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กล่าวว่า การวิจัยครั้งนี้ได้วิจัยเกี่ยวกับ 1. การศึกษาผลของอุณภูมิ ปริมาณอากาศ และความเป็นกรด-ด่างต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย 2. การพัฒนาอาหารเพาะเลี้ยงโดยใช้น้ำกากชูรส 3. การศึกษาประสิทธิภาพฆ่าลูกน้ำ 4. การเพาะเลี้ยงในถังหมัก 5. รูปแบบผลิตภัณฑ์ 6. ความคงตัวของผลิตภัณฑ์ และ 7. การทดสอบประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์แบบจำลองธรรมชาติ ผลการศึกษาพบว่า การนำน้ำกาก ชูรสมาเพาะเลี้ยงแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis นั้น สามารถดำเนินการได้จริง แต่ต้องปรับระดับความเข้มข้นของน้ำกากชูรสรวมทั้งเติมสารอื่นๆ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ เนื่องจากแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis สายพันธุ์แพร่เจริญเติบโตได้ดีในช่วงกว้างของอุณหภูมิและความเป็นกรด-ด่าง จึงไม่ค่อยยุ่งยากในการเพาะเลี้ยง แต่เป็นแบคทีเรียที่ต้องการอากาศจึงต้องให้อากาศในปริมาณที่เพียงพอ ถ้าเก็บเกี่ยวเซลล์ในช่วงที่เหมาะสม จะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพกำจัดลูกน้ำยุงลายใกล้เคียงกับแบคทีเรียมาตรฐาน และมีต้นทุนต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศอีกด้วย.
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในแต่ละปีมีประชาชนป่วยด้วยโรคที่มียุงเป็นพาหะนำโรคจำนวนมาก เช่น โรคไข้เลือดออก โรคไข้สมองอักเสบ โรคมาลาเรีย และโรคเท้าช้าง ฯลฯ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกกำลังระบาดและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการวิจัยและพัฒนา นวัตกรรมที่สนับสนุนงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ จึงได้มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถกำจัดลูกน้ำยุงลาย โดยใช้น้ำกากชูรสที่เป็นสิ่งเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมผลิตผงชูรส มาใช้เป็นวัตถุดิบในการเพาะเลี้ยงเซลล์ แบคทีเรียบาซิลลัส ทูริงเยนซิส (Bacillus thuringiensis) หรือ บีที ซึ่งเป็นแบคทีเรียกำจัดลูกน้ำยุงลายได้
breakอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าน้ำกากชูรสสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์แบคทีเรียได้ และมีประสิทธิภาพกำจัดลูกน้ำยุงลายใกล้เคียงกับแบคทีเรียมาตรฐาน ในอนาคตอาจนำไปสู่การผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายต่อไป ทั้งนี้ แบคทีเรียที่ได้รับการยอมรับให้นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์กำจัดลูกน้ำยุงลายนั้น มี 2 ชนิด คือ Bacillus thuringiensis subsp.israelensis เป็นแบคทีเรียที่มีศักยภาพในการฆ่าลูกน้ำยุงได้หลายชนิด โดยเฉพาะการใช้กำจัดลูกน้ำยุงลาย รวมทั้งริ้นดำ และบาซิลลัส สเฟียริคัส (Bacillus sphaericus) เป็นแบคทีเรียที่มีศักยภาพในการกำจัดลูกน้ำยุงก้นปล่องและยุงรำคาญได้ดี ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนา Bacillus thuringiensis subsp. israelensis เป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าหลายชนิดในต่างประเทศแต่มีราคาสูง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เห็นว่าน้ำกากชูรสเหลือทิ้งสามารถสร้างงานวิจัยเพื่อใช้ประโยชน์ จากสิ่งเหลือทิ้งได้หลายสาขา จึงได้มีการศึกษาและพัฒนาเป็นอาหารเพาะเลี้ยงแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis เพื่อนำไปสู่การทำผลิตภัณฑ์เพื่อใช้กำจัดลูกน้ำยุงลายต่อไป ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า รวมทั้งช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
breakนพ.สมชาย แสงกิจพร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กล่าวว่า การวิจัยครั้งนี้ได้วิจัยเกี่ยวกับ 1. การศึกษาผลของอุณภูมิ ปริมาณอากาศ และความเป็นกรด-ด่างต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย 2. การพัฒนาอาหารเพาะเลี้ยงโดยใช้น้ำกากชูรส 3. การศึกษาประสิทธิภาพฆ่าลูกน้ำ 4. การเพาะเลี้ยงในถังหมัก 5. รูปแบบผลิตภัณฑ์ 6. ความคงตัวของผลิตภัณฑ์ และ 7. การทดสอบประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์แบบจำลองธรรมชาติ ผลการศึกษาพบว่า การนำน้ำกาก ชูรสมาเพาะเลี้ยงแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis นั้น สามารถดำเนินการได้จริง แต่ต้องปรับระดับความเข้มข้นของน้ำกากชูรสรวมทั้งเติมสารอื่นๆ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ เนื่องจากแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis สายพันธุ์แพร่เจริญเติบโตได้ดีในช่วงกว้างของอุณหภูมิและความเป็นกรด-ด่าง จึงไม่ค่อยยุ่งยากในการเพาะเลี้ยง แต่เป็นแบคทีเรียที่ต้องการอากาศจึงต้องให้อากาศในปริมาณที่เพียงพอ ถ้าเก็บเกี่ยวเซลล์ในช่วงที่เหมาะสม จะได้เซลล์ที่มีประสิทธิภาพกำจัดลูกน้ำยุงลายใกล้เคียงกับแบคทีเรียมาตรฐาน และมีต้นทุนต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศอีกด้วย.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)